การทำฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ในกลุ่มผักสลัดนั้น หัวใจสำคัญอย่างนึงที่ขาดไม่ได้ก็คือ การพ่นหมอก ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับช่วยเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ เนื่องจากในช่วงเที่ยงถึงช่วงบ่าย จะเป็นช่วงที่แสงแดดค่อนข้างจัด ส่งผลให้ผักมีการคายน้ำสูง ระบบพ่นหมอก จะมาช่วยปรับสมดุลของการคายน้ำทางใบให้กับผักได้
การพ่นหมอก นอกจากจะช่วยเพิ่มความชื้นสัมพันธ์แล้ว ยังช่วยไล่แมลงตัวเล็กโดยเฉพาะเพลี้ย ไม่ให้มาสร้างความเสียหายต่อผักสลัดที่เราปลูกด้วย
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับทำระบบพ่นหมอก
- ถังพักน้ำขนาด 100 ลิตร พร้อมลูกลอยสำหรับเปิด-ปิด น้ำเข้าถังพักแบบอัตโนมัติ
- ตัวกรองน้ำสำหรับการเกษตร
- เครื่องตั้งเวลา (Timer)
- ปั๊มแรงดันสูง 3.5 บาร์ 0.5 แรงม้า (สำหรับหัวพ่นหมอก 100 หัว)
- ท่อพีวีซี ขนาด 4 หุน สำหรับต่อมาจากปั๊ม
- สายพีอี ขนาด 20 มม.
- หัวพ่นหมอก แบบ 4 ทิศทาง
การตั้งเวลาเปิดปิด ระบบพ่นหมอก
- การทำงานของระบบพ่นหมอก จะไม่ได้ทำงานตลอดเวลา แต่จะทำงานครั้งละ 15-20 วินาที ส่วนความถี่ตามความเหมาะสมของสภาพอากาศ
- ในหน้าร้อนที่อุณหภูมิช่วง 11:00 – 15:00 สูงถึง 40 องศาเซลเซียส อาจจะตั้งให้ระบบพ่นหมอกทำงานทุก 10 นาที แล้วคอยสังเกตุว่าผักเหี่ยวหรือไม่ ลดเวลาลง เพิ่มเวลาขึ้นตามความเหมาะสม
- ในช่วงสาย ถ้าอุณภูมิเริ่มสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ก็ให้ระบบพ่นหมอกเริ่มทำงานทันที
- ในหน้าฝนอากาศเริ่มเย็นลง ผักจะคายน้ำได้น้อยลง ควรตั้งไทม์เมอร์ให้นานขึ้น ทำงานทุกๆ 20-25 นาที พ่นครั้งละ 15-20 วินาที ควรตั้งเวลาให้เหมาะสมตามสภาพอากาศ หากพ่นหมอกมากไปจะทำให้พืชคายน้ำไม่สมดุลย์ จนเกิดอาการบิดตัว คอด ทิปเบริ์น รากเสีย พืชดูดซับอาหารไม่ได้ และขาดสารอาหารตายในที่สุด