โรสแมรี่ (Rosmarinus officinalis) เป็นสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียนและยุโรปตอนใต้ นิยมใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหารและมีสรรพคุณทางยา เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องสำอาง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ชื่อวิทยาศาสตร์: Rosmarinus officinalis
- วงศ์: Lamiaceae
- ลำต้น: เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร
- ใบ: รูปเข็ม สีเขียวเข้ม ขอบใบม้วนลงเล็กน้อย
- ดอก: ขนาดเล็ก สีฟ้า ม่วง หรือขาว ออกเป็นช่อตามกิ่ง
- กลิ่น: มีกลิ่นหอมสดชื่นที่ช่วยบรรเทาความเครียด

ประเภทของโรสแมรี่
- Common Rosemary – พันธุ์ทั่วไปที่นิยมใช้ปรุงอาหาร
- Arp Rosemary – ทนต่ออากาศเย็น เหมาะสำหรับปลูกในเขตอบอุ่น
- Tuscan Blue Rosemary – มีกลิ่นหอมเข้มข้น ใบใหญ่ ใช้แต่งสวนและเป็นเครื่องเทศ
- Prostrate Rosemary – โรสแมรี่เลื้อย ใช้ปลูกคลุมดินและตกแต่งสวน
คุณค่าทางโภชนาการ (ต่อ 100 กรัม)
- พลังงาน: 131 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต: 20 กรัม
- โปรตีน: 3.3 กรัม
- ไขมัน: 5.9 กรัม
- ใยอาหาร: 14 กรัม
- วิตามินซี: 22 มิลลิกรัม (ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน)
- วิตามินเอ: 2924 IU (ช่วยบำรุงสายตา)
- แคลเซียม: 317 มิลลิกรัม (ช่วยบำรุงกระดูก)
- เหล็ก: 6.6 มิลลิกรัม (ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง)
สรรพคุณทางยาและประโยชน์ต่อสุขภาพ
- ช่วยบำรุงสมองและความจำ – สารประกอบในโรสแมรี่ช่วยกระตุ้นระบบประสาท ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน – อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี
- ช่วยย่อยอาหาร – ลดอาการแน่นท้อง ท้องอืด และช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้
- บรรเทาความเครียดและช่วยให้ผ่อนคลาย – น้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่ช่วยลดความตึงเครียด
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต – ป้องกันภาวะเลือดหนืด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- มีฤทธิ์ต้านจุลชีพ – สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในร่างกาย
- ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ – ใช้เป็นส่วนผสมในยาทานวดและน้ำมันหอมระเหย

การใช้โรสแมรี่ในอาหาร
- ปรุงเนื้อสัตว์: ใช้กับไก่ หมู แกะ และปลาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและลดกลิ่นคาว
- ซุปและสตูว์: เช่น สตูว์เนื้อ พาสต้า และอาหารยุโรป
- เครื่องดื่มและชา: ใช้ชงเป็นชาเพื่อช่วยบรรเทาอาการเครียดและช่วยย่อยอาหาร
- ขนมปังและของหวาน: สามารถใช้แต่งกลิ่นขนมปังและขนมอบ
วิธีปลูกและดูแลโรสแมรี่
- ดินและแสงแดด – ต้องการดินร่วนที่ระบายน้ำดี และแสงแดดเต็มวัน (อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน)
- การรดน้ำ – ควรรดน้ำพอประมาณ หลีกเลี่ยงน้ำขังเพราะอาจทำให้รากเน่า
- การขยายพันธุ์ – สามารถเพาะเมล็ดหรือปักชำกิ่ง
- การตัดแต่งกิ่ง – ควรตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการแตกยอดใหม่
- การเก็บเกี่ยว – สามารถเก็บเกี่ยวใบสดได้ตลอดปี โดยใช้กรรไกรตัดใบจากยอดต้น
การแปรรูปและการเก็บรักษา
- การอบแห้ง – นำใบไปตากแห้งแล้วเก็บไว้ในภาชนะปิดสนิท
- การแช่แข็ง – ใบโรสแมรี่สดสามารถแช่แข็งได้เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- การสกัดน้ำมันหอมระเหย – ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง โลชั่น และสบู่
ข้อควรระวังในการใช้โรสแมรี่
- สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยง – การบริโภคโรสแมรี่ในปริมาณมากอาจกระตุ้นการหดตัวของมดลูก
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรระวัง – โรสแมรี่อาจเพิ่มความดันโลหิตในบางกรณี
- อาจทำให้เกิดอาการแพ้ – ผู้ที่แพ้พืชในตระกูล Lamiaceae เช่น มินต์ หรือโหระพา ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
- ไม่ควรบริโภคในปริมาณสูง – การใช้โรสแมรี่ในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหรือปวดหัว
สรุป
โรสแมรี่ (Rosmarinus officinalis) เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ทั้งในด้านอาหารและการแพทย์ มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องเทศสำคัญในอาหารยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน การปลูกโรสแมรี่ทำได้ง่ายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ ทำให้เป็นพืชที่ควรค่าแก่การปลูกไว้ในสวนครัว