ในปัจจุบัน เกษตรกรรมแบบโรงเรือน (Greenhouse Farming) ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับพืชได้ ส่งผลให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพ ลดความเสียหายจากสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน รวมถึงช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมี
พลาสติกคลุมโรงเรือน (Greenhouse Plastic Film) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของโรงเรือนที่ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในให้เหมาะสมกับการปลูกพืช โดยช่วยป้องกันฝน ลม แสงแดดที่รุนแรง และรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากแมลงศัตรูพืช ทำให้ลดการใช้สารเคมีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

1. พลาสติกคลุมโรงเรือนคืออะไร
พลาสติกคลุมโรงเรือนเป็นวัสดุที่ผลิตจากโพลีเอทิลีน (Polyethylene หรือ PE) คุณภาพสูง มีความเหนียว ยืดหยุ่น และทนต่อสภาพอากาศ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือน โดยสามารถเลือกใช้พลาสติกที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ป้องกันรังสี UV ป้องกันหยดน้ำ หรือกระจายแสง
2. ประโยชน์ของพลาสติกคลุมโรงเรือน
2.1 ป้องกันสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม
ช่วยปกป้องพืชจาก ฝนตกหนัก ลมแรง อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้พืชเจริญเติบโตผิดปกติหรือได้รับความเสียหาย
2.2 ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น
โรงเรือนที่ใช้พลาสติกคลุมสามารถรักษาระดับอุณหภูมิและความชื้นภายในให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูกได้ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ต้องการอุณหภูมิคงที่
2.3 ป้องกันแมลงและศัตรูพืช
พลาสติกคลุมโรงเรือนช่วย ลดการเข้าถึงของแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว และหนอนผีเสื้อ ส่งผลให้ลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและทำให้ผลผลิตปลอดภัยต่อผู้บริโภค
2.4 เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืช
เมื่อสามารถควบคุมปัจจัยแวดล้อมได้ดี พืชจะสามารถ เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ มีอัตราการออกดอกและติดผลสูงขึ้น
2.5 ลดต้นทุนการดูแล
ช่วย ลดปริมาณการรดน้ำและลดความต้องการใช้ปุ๋ยและสารเคมี เพราะสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุมทำให้ธาตุอาหารในดินไม่สูญเสียไปง่าย
3. ประเภทของพลาสติกคลุมโรงเรือน
3.1 พลาสติกใส (Clear Plastic Film)
- ให้แสงแดดส่องผ่านได้มากถึง 85-90%
- เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการแสงแดดเยอะ เช่น มะเขือเทศ พริก แตงกวา
- ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชได้ดี
3.2 พลาสติกขาวขุ่น (Diffused Plastic Film)
- กระจายแสงให้ทั่วโรงเรือน ลดการเกิดเงาบัง
- เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการแสงสม่ำเสมอ เช่น ผักสลัด ดอกไม้ เมล่อน
- ลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนในช่วงกลางวัน
3.3 พลาสติกเคลือบสารป้องกัน UV (UV Stabilized Plastic Film)
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของพลาสติก ไม่ให้เสื่อมสภาพจากแสงแดดเร็ว
- ลดผลกระทบจากรังสี UV ที่อาจเป็นอันตรายต่อพืช
3.4 พลาสติกป้องกันหยดน้ำ (Anti-Drip Plastic Film)
- ลดการเกิดหยดน้ำภายในโรงเรือน ลดความเสี่ยงของโรคพืช
- ป้องกันการสะสมของความชื้นที่มากเกินไป
4. ความหนาของพลาสติกคลุมโรงเรือน
ความหนา (ไมครอน) | อายุการใช้งาน (ปี) | การใช้งานที่แนะนำ |
---|---|---|
100 ไมครอน | 1-2 ปี | โรงเรือนขนาดเล็ก ใช้งานชั่วคราว |
150 ไมครอน | 2-3 ปี | โรงเรือนทั่วไปในพื้นที่ลมไม่แรงมาก |
200 ไมครอน | 3-5 ปี | โรงเรือนขนาดใหญ่ ใช้งานระยะยาว |
250 ไมครอน | 5 ปีขึ้นไป | โรงเรือนที่ต้องการความทนทานสูง |
5. วิธีการติดตั้งพลาสติกคลุมโรงเรือน
- เตรียมโครงสร้างโรงเรือน – ใช้โครงเหล็กหรือ PVC ที่แข็งแรง
- ติดตั้งพลาสติกคลุมโรงเรือน – คลี่พลาสติกและยึดด้วย รางล็อคและลวดสปริง (Lockwire & Spring Insert)
- ตรวจสอบความตึงของพลาสติก – เพื่อป้องกันการสะสมของน้ำฝนและลดแรงกระแทกจากลม
- จัดการระบบระบายอากาศ – ออกแบบช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน
6. ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อพลาสติกคลุมโรงเรือน
- เลือกชนิดที่เหมาะกับพืชที่ปลูก
- เลือกความหนาให้เหมาะสมกับอายุการใช้งานที่ต้องการ
- เลือกพลาสติกที่มีสารป้องกัน UV เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน
7. สรุป
พลาสติกคลุมโรงเรือน (Greenhouse Plastic Film) เป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยให้การเพาะปลูกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยปกป้องพืชจากสภาพอากาศที่รุนแรง ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ลดศัตรูพืช และเพิ่มผลผลิต
การเลือกพลาสติกคลุมโรงเรือนที่เหมาะสมกับประเภทพืชและสภาพแวดล้อม รวมถึงการติดตั้งและดูแลรักษาอย่างถูกต้อง จะช่วยให้โรงเรือนมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการทำเกษตรกรรม