ปัญหาการระบาดของ “เพลี้ยไฟ” ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับเกษตรกรหลายท่าน การใช้ สารกำจัดแมลง เพื่อควบคุมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หลายครั้งก็พบว่าการใช้สารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกลุ่ม สารกำจัดแมลง ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการ เพลี้ยไฟ พร้อมแนวทางการเลือกใช้และผสมผสานสารเพื่อให้การควบคุมมีประสิทธิภาพสูงสุด อ้างอิงข้อมูลจากเอกสาร “เพลี้ยไฟ กะ ไอ้ฮวบ”

ทำความเข้าใจ: กลุ่มสารกำจัดแมลงสำหรับเพลี้ยไฟ
เพื่อให้การเลือกใช้ สารกำจัดแมลง เป็นไปอย่างตรงจุด เรามาดูกันว่าสารแต่ละกลุ่มมีบทบาทอย่างไรในการจัดการ เพลี้ยไฟ:
1. กลุ่มแม่ทัพ: หยุดยั้งการระบาดรวดเร็ว
เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ เพลี้ยไฟระบาดรุนแรง ต้องการลดปริมาณอย่างเร่งด่วน
- กลุ่ม 5: สไปนีโทแรม (spinetoram) (เช่น เอ็กซอล – Exalt), สปินโนแซด (spinosad)
- กลุ่ม 13: คลอร์ฟีนาเพอร์ (chlorfenapyr) (เช่น แรมเพจ – Rampage, แฟนทอม – Phantom)
- กลุ่ม 18: เมทอกซีฟีโนไซด์ (methoxyfenozide) (เช่น โปรดีจี้ – Prodigy, เพเซอร์ – Peacer)
- กลุ่ม 21: โทลเฟนไพเรด (tolfenpyrad) (เช่น ฮาชิ-ฮาชิ – Hachi-Hachi)
- กลุ่ม 23: สไปโรเตตราเมท (spirotetramat) (เช่น โมเวนโต้ – Movento)
- กลุ่ม 28: ไซแอนทรานิลิโพรล (cyantraniliprole) (เช่น บีนีเวียร์ – Benevia, คลอแรนทรานิลิโพรล – chlorantraniliprole)
- กลุ่ม 29: ฟลอนิคามิด (flonicamid) (เช่น เทปเปกิ – Teppeki)
2. กลุ่มรอง: ป้องกันและควบคุมในสภาวะปกติ
ใช้เป็นหลักในการจัดการ เพลี้ยไฟ ในช่วงที่ไม่รุนแรง และเสริมประสิทธิภาพเมื่อมีการระบาด
- กลุ่ม 2B: ฟิโพรนิล (fipronil) (เช่น แอสเซนด์ – Ascend)
- กลุ่ม 4A: อิมิดาโคลพริด (imidacloprid) (เช่น โปรวาโด – Provado), ไทอะมีทอกแซม (thiamethoxam) (เช่น แอคทารา – Actara), โคลไทอะนีดิน (clothianidin) (เช่น แดนทอซ – Dantotsu), ไดโนทีฟูแรน (dinotefuran) (เช่น สตาร์เกิล – Starkle), อะซีทามิพริด (acetamiprid) (เช่น โมแลน – Molan), ไทอะโคลพริด (thiacloprid) (เช่น อะแลนโต – Alanto)
- กลุ่ม 6: อีมาเมคติน เบนโซเอท (emamectin benzoate)
- กลุ่ม 9B: ไพมีโทรซิน (pymetrozine) (เช่น เพลนัม – Pleanum)
- กลุ่ม 14: คาร์แทบ ไฮโดรคลอไรด์ (cartap hydrochloride)
- กลุ่ม 15: คลอฟลูอะซูรอน (chlorfluazuron) (เช่น อาทาบรอน – Atabron), ลูเฟนนูรอน (lufenuron) (เช่น แมทซ์ – Match), โนวาลูรอน (novaluron) (เช่น ไรมอน – Rimon)
3. กลุ่มพื้น: สารเสริมประสิทธิภาพ
ใช้เพื่อเสริมฤทธิ์ของสารหลักในการควบคุม เพลี้ยไฟ
- กลุ่ม 1A: คาร์โบซัลแฟน (carbosulfan) (เช่น พอสซ์ – Posse), เบนฟูราคาร์บ (benfuracarb) (เช่น ออนคอล – Oncol), เมทิโอคาร์บ (methiocarb) (เช่น อีลีท – Elite)
- กลุ่ม 1B: อะซีเฟต (acephate) (เช่น ออทีน – Orthene), คลอไพรีฟอส (chlorpyrifos) (เช่น ลอร์สแบน – Lorsban), พีรีมีฟอส-เมทิล (pirimiphos-methyl) (เช่น แอคเทลิค – Actellic), ฟอสซาโลน (phosalone) (เช่น โซโลน – Zolone)
- กลุ่ม 3A: ไบเฟนทริน (bifenthrin) (เช่น ทาลสตาร์ – Talstar), เบต้าไซฟลูทริน (beta-cyfluthrin) (เช่น โฟลิเทค – Folitec), ไซฮาโลทริน-แอล (lambda-cyhalothrin) (เช่น คาราเต้ – Karate), เดลตาเมทริน (deltamethrin) (เช่น เดซีส – Decis), เฟนโพรพาทิน (fenpropathrin) (เช่น ดานิทอล – Danitol)
แนวทางการเลือกใช้และผสมสารกำจัดแมลง (อัปเดต 2025)
จากการสำรวจคู่ผสม สารกำจัดแมลง ที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย พบแนวทางที่น่าสนใจดังนี้:
- กลุ่ม 28 + 4A
- กลุ่ม 28 + 6
- กลุ่ม 23 + 4A
- กลุ่ม 22A + 6
- กลุ่ม 22A + 16
- กลุ่ม 18 + 5
- กลุ่ม 16 + 3A
- กลุ่ม 16 + 6
- กลุ่ม 4A + 3A
- กลุ่ม 4A + 6
การผสม สารกำจัดแมลง อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงต่อการดื้อยาของ เพลี้ยไฟ เกษตรกรสามารถพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมและงบประมาณ โดยอาจเริ่มต้นจากการใช้สารกลุ่มที่ออกฤทธิ์เบาก่อน แล้วจึงค่อยปรับไปใช้สารที่เข้มข้นขึ้นเมื่อจำเป็น
บทสรุป:
การจัดการปัญหา เพลี้ยไฟ อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีความเข้าใจในกลุ่ม สารกำจัดแมลง และกลไกการออกฤทธิ์ การเลือกใช้ สารกำจัดแมลง ที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการพิจารณาแนวทางการผสมสาร จะช่วยให้คุณรับมือกับการระบาดของ เพลี้ยไฟ ได้อย่างอยู่หมัด หวังว่าคู่มือนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรทุกท่านในการปกป้องพืชผลจากการรบกวนของ เพลี้ยไฟ ในปี 2025 นี้