มัลเบอร์รี (Mulberry) หรือที่เมืองไทยเรียกว่า ลูกหม่อน เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่ได้รับความนิยมในการรับประทานเพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากว่าปลูกง่าย โตไว และเหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย ดังนั้นจึงนำมาทดลองปลูกเองที่ฟาร์ม เพื่อดูอัตราการเติบโต การติดผล และรสชาติว่าอร่อยขนาดไหน
ครั้นจะซื้อเป็นต้นมาปลูกเลยมันง่ายเกินไป อีกอย่างราคาที่เขาขายกันก็แพงด้วย แถมยังมาเจอค่าส่งแสนโหดจากไปรษณีย์ไทยอีกต่างหาก ก็เลยเลือกที่จะซื้อเป็นกิ่งสดมาขยายพันธุ์เอง โดยเลือกสายพันธุ์หม่อนนอกอย่าง ดำออสตุรกี และสายพันธุ์พื้นบ้าน เช่น กำแพงแสน 42 และพันธุ์เชียงใหม่ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน
กิ่งสดมัลเบอรี่ ตัดให้มีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร จากนั้นนำไปแช่น้ำยาเร่งราก แล้วเอาขึ้นมาผึ่งให้แห้ง
นำกิ่งสดมัลเบอรี่ไปแช่น้ำยาเร่งราก เพื่อจะได้ชำติดง่ายขึ้น
จากนั้นนำไปชำลงกระถาง ในที่นี้เลือกชำโดยใช้ทรายหยาบ ปักรวมกันกระถางละ 7 – 10 กิ่ง ถ้าชิดกันมากเกินไปเวลาที่รากเริ่มออกแล้ว จะแยกออกจากันยาก นำไปตั้งไว้ที่ร่มหรือแดดรำไร
คอยรดน้ำให้ชุ่มเช้า-เย็น
ประมาณ 1 สัปดาห์ จะเริ่มแทงยอดออกมา ช่วงนี้คอยระวังพวกหอยทากมากัดกินยอดอ่อนด้วย ปล่อยไว้ประมาณ 1 เดือน รากถึงจะแข็งแรงเต็มที่ ค่อยจะแยกแต่ละต้นออกจากกัน
การแยกใช้วิธีง่ายด้วยการเอียงกระถาง และใช้น้ำค่อยๆ ราดลงบนทราย ให้ทรายไหลออกมา วิธีน้อยรากจะได้รับการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
หากจับเทออกกระถางเลย ก็พอทำได้ แต่ว่าเสี่ยงที่จะทำให้รากของต้นหม่อนขาด
หรืออีกวิธีนึงก็คือใช้การชำแยกลงแก้วพลาสติกใส แล้วใช้ขุยมะพร้าวเป็นวัสดุชำ แต่ก่อนนำมาใช้ต้องแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนอย่างน้อย 1 วัน เพื่อให้ขุยมะพร้าวชุ่มน้ำ และเป็นการล้างค่าความเป็นด่างของขุยมะพร้าวออกด้วย การชำมัลเบอรี่ ทั้ง 2 วิธีนี้ ผลที่ได้ไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน แต่ว่าต้องใช้กิ่งมัลเบอรี่ที่มีอายุพอเหมาะ ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป
มัลเบอรี่เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตง่าย และติดผลง่ายมาก ต้นนี้ปลูกไว้ประมาณ 5 เดือน ก็เริ่มติดลูกแล้ว เป็นมัลเบอรี่สายพันธุ์ดำออสตุรกี ลูกจะใหญ่กว่าและรสชาติหวานกว่ามัลเบอรี่สายพันธุ์พื้นบ้านทั่วไป